เมจิ จิงกุเป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่ชื่อเสียงโด่งดังและมีความสำคัญมากที่สุดในโตเกียว และยังมีผู้มาเข้าชมจำนวนมากที่สุดด้วย อย่างไรก็ตามสวนภายในของศาลเจ้ากลับเป็นความสวยงามที่ถูกมองข้ามไป แต่ก็คุ้มค่าแก่การไปเยี่ยมชม
สวนแห่งนี้มีพื้นที่กว่า 83,000 ตารางเมตรครอบคลุมตั้งแต่อาคารหลักของศาลเจ้าและสวนสาธารณะโยโยะงิ คิดค่าเข้าชม 500 เยน และผู้เข้าชมสามารถเดินเล่นไปบนทางเท้าทำจากหินที่ตัดผ่าป่าอันสวยงาม มีโรงน้ำชาที่ให้เสน่ห์แบบยุคก่อนถูกสร้างขึ้นในสไตล์ญี่ปุ่นขนานแท้ แล้วก็ยังมีสวนดอกไอริซขนาดใหญ่ซึ่งจะมีความสวยงามที่สุดในเดือนมิถุนายนเมื่อดอกไม้บานสะพรั่ง ที่บริเวณกลางสวนคือสระทิศใต้ แหล่งน้ำอันเงียบสงบที่เต็มไปด้วยเต่าและเหล่าปลาคาร์พหลากสีสัน
อีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมของสวนแห่งนี้คือบ่อน้ำของคิโยมาสะ บ่อนี้เป็นปากน้ำที่ไหลสู่สระทิศใต้ ที่จุดนี้มีชื่อเสียงก็เพราะมันได้ถูกเรียกว่าเป็น "ขุมพลัง" หรือที่กล่าวกันว่ามันจะมอบพลังด้านบวก บำรุงกำลัง และนำโชคมาให้กับใครก็ตามที่แวะเข้าไป และในปัจจุบันนี้เนื่องจากความโด่งดังของกระแส "ขุมพลัง" ดังกล่าว จึงมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพิเศษมาประจำอยู่ที่บริเวณบ่อน้ำเพื่อจัดระเบียบแถวของนักท่องเที่ยวและดูแลไม่ให้มีใครอยู่ชมหรือถ่ายภาพเป็นเวลานานจนเกินไป
สวนภายในนั้นเดิมทีเป็นส่วนหนึ่งของบ้านพักของคิโยมาสะ คาโตะ ผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองและการทหารในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นช่วงยุคทศวรรษที่ 1500 และ 1600 เนื่องจากตระกูลของเขาเป็นเจ้าของที่ดิน จึงไม่ชัดเจนว่าคาโตะเคยมาพักอาศัยอยู่ด้วยตนเองหรือไม่ ในช่วงสมัยเมจิ (ปลายทศวรรษที่ 1800 ถึง ต้นทศวรรษ 1900) สวนแห่งนี้ได้ถูกยึดครองโดยรัฐบาลญี่ปุ่นและถูกตั้งชื่อว่าโยโยกิ เกียวเอน (สวนจักรพรรดิโยโยกิ) จักรพรรดิและจักรพรรดินีแห่งเมจิก็เสด็จมาประทับอยู่บ่อยครั้ง ปัจจุบันสวนแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักในชื่อเมจิ จิงกุ เกียวเอนด้วย