คฤหาสน์ใหญ่สไตล์ตะวันตก (เครดิตรูปภาพ: Sue Ann Kunath)

สวนโคมาบะ มรดกล้ำค่าแห่งโตเกียว

ท่องอดีตและสัมผัสเสน่ห์สองวัฒธรรมตะวันออก-ตกที่ลงตัว

คฤหาสน์ใหญ่สไตล์ตะวันตก (เครดิตรูปภาพ: Sue Ann Kunath)
Keeratika Makasuk   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

สวนโคมาบะ แหล่งธรรมชาติอันเขียวชอุ่มท่ามกลางบรรยากาศสวยงามและสงบร่มเย็นแห่งนี้ ตั้งอยู่ในละแวกบ้านเรือนอันเงียบสงบในย่าน Meguro-ku อาจจะหายากกันสักหน่อยเพราะมันแอบๆอยู่ข้างๆวิทยาลัยเขตโคมาบะของมหาวิทยาลัยโตเกียวนี่เอง ซึ่งสังเกตได้จากตรงทางเข้าจะมีทางเดินเข้าไปได้หลายทางพร้อมประตูกำแพงที่เปิดอ้าไว้บนถนนสายเล็กๆ

บอกตามตรงเลยว่าชื่อธรรมดาๆอย่าง “สวนโคมาวะ” แค่นั้นดูจะไม่ค่อยเข้ากับเคหสถานที่เลิศหรูอลังการงานสร้างของที่นี่สักเท่าไร ถ้าชื่อ “คฤหาสน์สุดหรูโคมาบะโดยขุนนาง Maeda Toshinari” อะไรทำนองนี้ก็ว่าไปอย่างเพราะมันยิ่งใหญ่อย่างนั้นจริงๆ โดยทรัพย์สินทั้งหมดของที่นี้แต่เดิมเป็นสมบัติของ ท่าน Maeda ผู้สืบทอดตระกูลซามูไร Kaga ที่มั่งคั่งและทรงอิทธิพลเมื่อครั้งยังปกครองย่านKanazawa ในยุคก่อน

ทันทีที่เหยียบย่างเข้าไปที่นั่น จะสัมผัสได้เลยถึงกลิ่นอายความเป็นผู้ดีและหรูหราโอ่อ่า ผ่านประตูเหล็กบานใหญ่ทางทิศเหนือเข้าไปตามทางเดินโรยกรวดอันกว้างขวางโอบล้อมด้วยเหล่าต้นไม้สูงที่พร้อมจะนำคุณไปสู่เรือนพักอาศัยใหญ่ทั้งหลาย เมื่อไปถึงแล้วตรงเบื้องหน้าจะเป็นคฤหาสน์ใหญ่สไตล์ตะวันตก (สร้างเมื่อปี 1929) หากเลี้ยวขวาไปก็จะพบกับเรือนที่พักสไตล์ญี่ปุ่น (สร้างเมื่อปี 1930) ที่ใช้รับรองอาคันตุกะต่างประเทศของตระกูล Maeda โดยใช้เสื่อปูพื้นตามแบบฉบับบ้านญี่ปุ่น พร้อมด้วยวิวที่สวยงามของสวนญี่ปุ่น น้ำพุและบ่อน้ำเล็กๆในส่วนตัว

โดยอีกฟากหนึ่งจะเป็นคฤหาสน์ใหญ่สไตล์ตะวันตกที่มีการตกแต่งตามแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก สังเกตได้จาก เสาหินอ่อนยุคกรีก ผนังแผ่นไม้ โคมไฟระย้า หน้าต่างประดับกระจกสีและเตาผิงไฟ โดยมีที่มาจากท่าน Maeda ที่เกิดความประทับอกประทับใจระหว่างไปพำนักอาศัยในต่างประเทศอย่าง ฝรั่งเศส อังกฤษและเยอรมัน เมื่อกลับมาญี่ปุ่นจึงได้นำรูปแบบวัฒนธรรมตะวันตกมาใช้ในการสร้างเรือนพักอาศัยแห่งนี้ โดยห้องโถงและห้องหลักต่างๆของคฤหาสน์นี้ยังคงความงดงามไม่จางหาย รวมถึงเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งทั้งหลายที่ยังคงอยู่ที่เดิม

หน้าต่างบานสูงในห้องหลักๆ ต่างหันหน้าออกสู่สวนสวยงามตา ที่มีดงต้นซากุระที่ปลูกไว้ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยิ่งถ้าเป็นตอนฤดูซากุระบานสะพรั่ง สวนทั้งสวนจะเนืองแน่นไปด้วยซากุระให้ได้ชื่นชมกัน หากลองนึกภาพย้อนอดีตตามดูก็แทบจะไม่อยากเชื่อเลยว่าสนามอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ ประกอบกับต้นไม้และพืชพรรณเป็นหย่อมๆ จะเคยเป็นที่ที่ตระกูล Maeda ออกมาพักผ่อนด้วยการขี่ม้าหรือเล่นสกีกันในช่วงฤดูหนาวมาก่อน

ที่นี่จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษที่คุณไม่เคยได้จากที่ไหนมาก่อน คุณจะได้เดินข้ามเวลาย้อนอดีต ปลดปล่อยจินตนาการให้ได้โลดแล่นในภาพของรถม้า โคมระย้า และเหล่าชนชั้นสูงในชุดออกงานหรูต่างๆ ที่มาดิ่มสังสรรค์กันด้วยถ้วยชามลายสวยงาม ไม่ใช่แค่นั้นคุณยังจะได้มาสัมผัสโลกอีกใบที่ต่างกับกรุงโตเกียวแบบสุดขั้ว เมื่อมาลองเดินบนพื้นหญ้าเขียวขจีประกอบกับความเงียบที่ปกคลุมจะทำให้คุณลืมไปเลยว่าชิบูย่าที่เสียงดังจอแจอยู่ห่างแค่เพียงเอื้อมมือนี้เอง

Keeratika Makasuk

Keeratika Makasuk @keeratika.makasuk

I am a 22 years old girl, who loves to travel to different parts of the world because I believe that being in foreign countries gives me a chance to explore and discover all things I've never experienced in my life. This kind of experience has made me become more mature and understanding. And Jap...