หลังจากปีนเขา Yamadera เพื่อชมความงามวัดวาอารามแล้ว อาหารและการพักผ่อนเป็นสิ่งเดียวที่คุณต้องการ ณ จุดนี้ ในเดือนเทศกาลแห่งการสักการะบูชาอาจจะมีร้านรวงมากมายคอยให้บริการ แต่จะมีที่ไหนให้ไปได้เล่าในเช้าวันเสาร์เวลาราว 11 โมง ที่หิมะปกคลุมไปทั่ว หนาวเหน็บของเดือนมกราคม ชินเคียวโบ ไม่เพียงแต่เปิดให้บริการเท่านั้น ยังเสิร์ฟโซบะอร่อยๆความสุดยอดเพียงหนึ่งเดียวแห่ง Yamagata
อย่างหนึ่งที่ขอเตือนเอาไว้ หากคุณวางแผนว่าจะทานที่ Yamadera หรือวางแผนจับจ่ายใช้สอยอะไรก็ตาม ขอให้มั่นใจว่ามีเงินสดอยู่ในกระเป๋า เพราะร้านค้าที่ Yamadera ไม่รับบัตรต่างๆแม้จะเป็นบัตรสัญชาติญี่ปุ่นก็เถอะ และแม้ว่าจะมีตู้เอทีเอ็มตั้งอยู่ตรงสำนักงานไปรษณีย์ ตู้นี้ก็อาจจะไม่รับบัตรต่างชาติ ยกเว้นในเวลาเปิดทำการของไปรษณีย์เท่านั้นที่บัตรคุณอาจจะใช้กดเงินสดออกมาได้
ชินเคียวโบแบ่งออกเป็นสองส่วน คือด้านติดถนนเป็นร้านกิฟชอป ด้านหลังเป็นร้านอาหาร ตัวอาคารของร้านค่อนข้างใหญ่ตั้งอยู่ตีนเขา เวลามองหาคุณก็มองหาสัญลักษณ์รูป "ชาม" ใบใหญ่ๆ ซึ่งประดับอยู่หน้าร้าน ร้านอาหารค่อนข้างจะเรียบง่ายให้ความรู้สึกเหมือนห้องนั่งเล่น ที่มีโต๊ะใหญ่ๆสองสมโตีะและเก้าอี้สองสามแถว เป็นที่น่าสังเกตุว่าเก้าอี้ค่อนข้างเล็กไปนิดสำหรับมาตรฐานชาวตะวันตก ส่วนห้องน้ำนั้น ก็เหมือนกันกับทุกที่ใน Yamadera คือเป็นแบบสไตล์ญี่ปุ่น ฉันเห็นห้องน้ำ ห้องหนึ่งที่มีการกั้นเป็นสองสามห้องเล็ก ซึ่งนั่นหมายความว่าใช้ร่วมกันทั้งชายหญิง ซึ่งก็แย่หน่อยอีกตรงที่ไม่มีสบู่ไว้ให้ใช้
เมนูที่นี่หลากหลายให้เลือก จากแบบธรรมดาๆไปจนถึงโซบะแบบพิเศษ สนนราคาสูงกว่าปกติเล็กน้อย แต่ก็เป็นโซบะที่ทำเอง เนื้อและเครื่องปรุงต่างๆเป็นของในท้องถิ่น
ฉันเลือก imoni โซบะ (มันฝรั่งต้ม) เสริ์ฟพร้อมแตงกวาดองสองสามชิ้น และแพร์ " La Frence" (อีกหนึ่งในอาหารมีชื่อของ Yamagata) อีกสองสามชิ้น แตงกวาดองนั้นนุ่มอร่อยและลูกแพร์ก็โรยด้วยอะไรบ้างอย่างที่ช่วยรักษาสี รักษารส ให้อร่อยสด แต่เมนูนี้ก็มีเฉพาะงานเทศกาลใหญ่ๆ เท่านั้น ฉันรู้สึกถึงความสดของบะหมี่ อร่อยกว่าหลายๆที่ที่เคยลองมา สิ่งที่โรยหน้ามาก็ทำให้ทั้งหน้าตาและรสชาติดีมาก ซึ่งมีตั้งแต่เห็ดเป็นชิ้นๆไปจนถึงต้นหอมซอยละเอียด และเนื้อนุ่มๆ น้ำซุปทำจากถั่วเหลืองเป็นหลัก ฉันทานจนเกลี้ยงชาม ต้องบอกว่าแม้แต่คนเบื่ออาหารหรือไม่ชอบแนวนี้ก็ยังทานได้มาก
ฉันอ่านคำบรรยายของร้านนี้ เขาบอกไว้ว่า "สามัญ" ซึ่งฉันว่าเหมาะสม เพราะที่นี่ไม่ได้มีอะไรหรูหรา แฟนตาซีเลย แค่อาหารดีๆกับความรู้สึกดีๆเท่านั้นเอง