หากใครชื่นชอบสถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ ขอแนะนำให้มาเยี่ยมชมสะพานคินไตเคียว(Kintai-kyo Bridge) สะพานห้าโค้ง ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 3 สะพานที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ร่วมกับสะพานชินเคียว(Shinkyo Bridge) ที่เมืองนิกโก้ และสะพานซารุฮาชิ(Saru-hashi Bridge) ที่เมืองโอสึกิ สะพานแห่งนี้ถูกสร้างด้วยวิธีการเข้าชิ้นด้วยสลักแบบดั้งเดิม ซึ่งจะไม่มีการใช้ตะปูเลยแม้แต่ตัวเดียว แม้จะได้รับความเสียหายจากพายุใต้ฝุ่นหลายครั้ง แต่ก็ได้รับการบูรณะซ่อมแซมอยู่เสมอ ในปัจจุบัน ตัวสะพานถูกยึดด้วยแผ่นเหล็กและแท่งเหล็กเพื่อเพิ่มความคงทน
จริงๆแล้วเราสามารถมาเยี่ยมชมสะพานคินไตเคียวได้ทุกฤดูกาล แต่แนะนำเป็นพิเศษให้มาเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิซึ่งทั้งสองฝั่งแม่น้ำจะถูกโอบล้อมไปด้วยดอกซากุระ มีร้านรวงมากมายให้เลือกสรรของกินและขนมอร่อยๆสำหรับนั่งปิกนิกใต้ต้นซากุระ สำหรับอาหารประจำถิ่นที่ขึ้นชื่อของที่นี่ คือ อิวากุนิซูชิ เป็นการนำข้าวมาผสมกับวัตถุดิบที่หาได้ในแถบนี้ อย่างรากบัว, เห็ดชิตะเกะ, ปลาอาจิ คั่นด้วยผักใบเขียว โรยหน้าด้วยไข่ฝอย วางซ้อนทับกันหลายชั้นในกล่องไม้แล้วกดบนฝาให้ทุกอย่างอัดเข้ากันจนแน่น วิธีการทำซูชิแบบนี้ จะทำครั้งหนึ่งในปริมาณมาก แล้วค่อยนำมาตัดแบ่งเสิร์ฟเป็นชุดๆให้ลูกค้า ว่ากันว่าทำครั้งหนึ่ง ทานได้ราว 10 คนเลยค่ะ อีกอย่างที่พลาดไม่ได้ คือ ซอฟครีมที่มีให้เลือกเป็นร้อยๆรสชาติ รสชาติที่หายากอย่าง รสรากบัว ซึ่งเป็นวัตถุดิบประจำถิ่นก็เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวมากเช่นกัน
เทศกาลสะพานคินไตเคียวถูกจัดขึ้นในวันที่ 29 เมษายน ประกอบด้วยขบวนแห่ประเพณีคนของคนญี่ปุ่น ส่วนในช่วงฤดูร้อน จะมีการแสดงการจับปลาโดยใช้นกกาน้ำกินปลาอายู และในเดือนสิงหาคม จะมีเทศกาลดอกไม้ไฟริมแม่น้ำ ซึ่งมีดอกไม้ไฟกว่า 6000 ดวง
ค่าเข้าชม: แบบเดินผ่านสะพานไป-กลับ ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็ก 150 เยน , ตั๋วแบบเหมารวม (ค่าเดินผ่านสะพาน ขึ้นรถเคเบิ้ลไปปราสาทและเข้าชมปราสาท) ผู้ใหญ่ 940 เยน เด็ก 450 เยน
เปิดให้บริการทุกวัน
วิธีการเดินทาง : จากสถานีอิวาคูนิ (Iwakuni Station) ถึง สถานีคินไตเคียว (Kintai-kyo bus stop) ใช้เวลา 20 นาที ค่ารถบัส 250 เยน (มีรถทุก 15 นาที)
