เซมโบคุเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดของจังหวัดอากิตะ มีทั้งภูเขาและทะเลสาปอันงดงาม บ่อน้ำพุร้อนเลื่องชื่อรวมถึงเทศกาลหิมะ ไม่ว่าใครก็ตามที่ชื่นชอบธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรมญี่ปุ่นโบราณก็เหมาะที่จะ มาเยือนที่นี่เป็นอย่างยิ่ง
เดินทางด้วยรถไฟชินคันเซนจากอากิตะหรือโตเกียวสู่สถานีทาซาวาโกะ (Tazawako) ซึ่งเปรียบได้กับประตูสู่เซมโบคุ โดยชื่อของสถานีแห่งนี้ตั้งขึ้นตามชื่อของทะเลสาปทาซาวาโกะนั่นเอง ชาวเมืองเล่าให้ผมฟังถึงตำนานเกี่ยวกับเจ้าหญิงทะสึโกะ ผู้เฝ้าสวดอ้อนวอนอธิษฐานให้คงความเยาว์วัยตลอดกาล เธอเชื่อว่าหากดื่มน้ำแห่งฤดูใบไม้ผลิเข้าไปก็จะช่วยให้สมปรารถนา แต่เจ้าหญิงกลับดื่มน้ำมากเกินไปจนกลายร่างเป็นมังกรในที่สุด ในวันที่มีเมฆเต็มท้องฟ้าหากคุณเดินเล่นเรื่อยเปื่อยรอบทะเลสาปก็อาจจินตนาการไปได้ว่ามีมังกรลอยล่องอยู่เหนือผิวน้ำ เหมือนสัตว์ประหลาดแห่งทะเลสาปล็อกเนสส์ หรือบางทีคุณอาจได้ยินเสียงร้องโหยหวนของหญิงสาวผู้หลงทางแว่วมาก็เป็นได้ ภายในสถานีทาซาวาโกะมีศูนย์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวขนาดใหญ่และสถานีรถโดยสารที่จะพาคุณไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ทั่วเซมโบคุได้อย่างสะดวก
ณ ทะเลสาปทาซาวาโกะ มีกิจกรรมให้คุณเพลิดเพลินหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือหรือว่ายน้ำในฤดูร้อน ทั้งยังมีที่พักให้เลือกหลากหลาย อาทิ โรงแรมโรสปาร์ค (Rose Park Hotel) ที่มีรายการอาหารทั้งญี่ปุ่นและฝรั่งเศสเสิร์ฟพร้อมวิวทะเลสาปอันงดงาม
ในระหว่างฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง บ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงของอาคิตะ "นิวโตะ ออนเซ็น" จะเปิดให้บริการนัก ท่องเที่ยว สายน้ำสีฟ้าใส เรือนพักสไตล์บ้านบนภูเขาและเรียวกังช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ภาพถ่ายดูมีมนต์ เสน่ห์มากยิ่งขึ้น ที่แห่งนี้เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนร่างกายและผ่อนคลายจิตใจเป็นอย่างมาก ใกล้ๆ กันคือที่ตั้งของภูเขานิวโตะที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,478 เมตร ให้คุณได้สัมผัสอากาศสดชื่นบริสุทธิ์แบบยอดเขาพร้อมทิวทัศน์สุดอลังการ ภูเขาลูกนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นมิตรต่อนักปีนเขาเนื่องจากสามารถปีนได้ง่ายทำให้มีผู้มาปีนเขาไม่ขาดสาย สำหรับทริปในหนึ่งวันที่อยากแนะนำก็คือ การเดินเท้าสู่บ่อน้ำพุร้อน ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงดงามได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงนกนานาพันธุ์และต้นสนโอโมริ โทโดมัตสุ อีกหนึ่งสัญลักษณ์แห่งภาคเหนือของญี่ปุ่น
ในอีกมุมหนึ่ง เซมโบคุ เปรียบเสมือน "เกียวโตน้อย" แห่งอากิตะ ที่นี่เต็มไปด้วยบ้านเรือนสมัยเอโดะอายุกว่าสองร้อยปีตั้งเรียงรายอยู่สองข้างทางถนนสายหลักของเมือง ปัจจุบันลูกหลานของตระกูลซามูไรผู้มั่งคั่งที่สุดยังคงสืบทอดขนบธรรมเนียมโบราณเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ท้าทายกระแสเปลี่ยนผ่านของกาลเวลา ถัดไปไม่ไกลเกินระยะขว้างหินถึงคือ "บ้านอันโดะ (Ando House)" อันโด่งดัง ตระกูลคนทำมิโซะและซอสถั่วเหลืองทีเริ่มต้นกิจการมาตั้งแต่ปี 1853 เมื่อเข้ามาภายในคุณจะได้กลิ่นหอมหวานยั่วน้ำลายของซอสถั่วเหลืองตลบอบอวลไปทั่วเลยทีเดียว
ในฤดูหนาวช่วงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลโคมไฟกระดาษขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ คุณจะได้เห็นลวดลายแมวและหญิงสาวญี่ปุ่นอันสวยงามลอยดวงสว่างอยู่ท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน เพื่อส่งสารแห่งความหวังจากใจดวงน้อยๆ ของเด็กๆ รวมไปถึงผู้ที่ยังมีจิตใจเยาว์วัยอยู่