กล่าวกันว่า ศาลเจ้าอัตสึตะ (熱田神宮 / Atsuta Shrine) แห่งเมืองนาโกย่า จ.ไอจิ นี้ ได้รับการยกย่องและจัดอันดับว่าเป็นศาลเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ที่น่าเคารพนับถืออันดับที่สองแห่งศาสนาชินโตที่รองจากศาลเจ้าใหญ่แห่งอิเสะ (伊勢神宮 / The Grand Shrine of Ise)
ศาลเจ้า ศาลเจ้าอัตสึตะ (熱田神宮 / Atsuta Shrine) นั้นเป็นศาสนสถานในศาสนาชินโตที่มีประวัติยาวนานมากกว่า 1,900 ปี ถูกสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในยุคสมัยของพระจักรพรรดิ์เคโกะ (景行天皇 / Emperor Keiko) อันเป็นพระจักรพรรดิ์องค์ที่ 12 ของญี่ปุ่น ซึ่งครองราชสมบัติในราวช่วง ค.ศ.71 - ค.ศ.103 ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าอมะเตราสึ (天照 / Amaterasu) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นบุตรีแห่งพระอาทิตย์
ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าไม้อันร่มรื่นในเมืองนาโกย่า ในปี ค.ศ.1893 ยุคสมัยเมจิ (Meiji Period) นั้นได้มีการบูรณะศาลเจ้านี้ใหม่อีกครั้งให้เป็นสถาปัตยกรรมในรูปแบบ Shinmei-zukuri (神明造) อันเป็นสถาปัตยกรรมศาลเจ้าแบบญี่ปุ่นโบราณซึ่งมีต้นแบบเป็นศาลเจ้าใหญ่แห่งอิเสะ (伊勢神宮 / The Grand Shrine of Ise) ใน จ.มิเอะ นั่นเอง ซึ่งการบูรณะนั้นแล้วเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1935 และมีการจัดเทศกาล Shikinen Sengu (式年遷宮) ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองการเปลี่ยนผ่านศาลเจ้าเก่าสู่ศาลเจ้าใหม่อย่างยิ่งใหญ่ แต่แล้วในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น ศาลเจ้าแห่งนี้ก็ถูกไฟไหม้จนวอดวาย หลังจากสงครามยุติลงได้มีการระดมทุนจากผู้ที่นับถือศาสนาชินโตตลอดจนประชาชนทั่วประเทศญี่ปุ่นสร้างศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้นมาใหม่อีกครั้งซึ่งศาลเจ้าใหม่นั้นสร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1955 และยืนหยัดมาจนถึงปัจจุบัน
- โบราณวัตถุอันสำคัญที่ถูกเก็บไว้ในศาลเจ้าแห่งนี้ก็คือ ดาบคุซานางิ (草薙劍 / Kusanagi Sward) ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของเครื่องราชกกุธภัณฑ์แห่งพระจักรพรรดิ์ (Imperial Regalia of Japan) อันสำคัญของราชวงศ์ญี่ปุ่น ซึ่งเครื่องราชกกุธภัณฑ์ทั้งสาม (หรือที่รู้จักกันในชื่อสากลว่า Three Sacred Treasures of Japan) นั้นประกอบไปด้วย ดาบคุซานางิ (草薙劍 / Kusanagi Sward), กระจกยาตะโนะคากามิ (八咫鏡 / Mirror Yata no Kagami) และ อัญมณียาซากาติโนะมากาตามะ (八尺瓊曲玉 / Yasakani no Magatama) ถึงแม้ว่าบางแหล่งมีการกล่าวอ้างว่าเครื่องราชกกุธภัณฑ์แห่งพระจักรพรรดิ์ทั้งสามจริงๆ ในปัจจุบันนั้นไม่ทราบแน่ชัดได้ว่าตั้งอยู่ที่ใด แต่เป็นที่ทราบทั่วกันทั่วไปว่าเครื่องราชกกุธภัณฑ์แห่งพระจักรพรรดิ์ทั้งสามชิ้นนี้ประดิษฐานอยู่ ณ ที่ต่างๆ ต่างกันดังนี้ ... โดย กระจกยาตะโนะคากามิ (八咫鏡 / Mirror Yata no Kagami) นั้นประดิษฐานอยู่ที่ศาลเจ้าใหญ่แห่งอิเสะ (伊勢神宮 / The Grand Shrine of Ise) จ.มิเอะ, อัญมณียาซากาติโนะมากาตามะ (八尺瓊曲玉 / Yasakani no Magatama) นั้นประดิษฐานอยู่ที่พระราชวังโตเกียว (皇居 / Tokyo Imperial Palace) จ.โตเกียว, และ ดาบคุซานางิ (草薙劍 / Kusanagi Sward) นั้นประดิษฐานอยู่ที่ศาลเจ้าอัตสึตะ (熱田神宮 / Atsuta Shrine) เมืองนาโกย่า จ.ไอจิ แห่งนี้นี่เอง ... ซึ่งเครื่องราชกกุธภัณฑ์แห่งพระจักรพรรดิ์ทั้งสามนี้หมายถึงองค์ธรรมสามประการแห่งกษัตริย์ ซึ่ง ดาบแทนความกล้าหาญ แก้วนั้นแทนความเมตตา ส่วนกระจกนั้นแทนสติปัญญา นั่นเอง
นอกจากนี้ภายในบริเวณ ศาลเจ้าอัตสึตะ (熱田神宮 / Atsuta Shrine) นั้นยังเป็นที่ตั้งของ Atsuta Shrine Museum ที่จัดแสดงโบราณวัตถุอันสำคัญทางประวัติศาสตร์ไว้กว่า 4,000 ชิ้น ซึ่งโบราณวัตถุเหล่านี้ล้วนได้รับการบริจากมาจากผู้มีจิตศรัทธาในศาสนาชินโตแทบทั้งสิ้น และในจำนวนนี้มีโบราณวัตถุกว่า 174 ชิ้น ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางมรดกแห่งวัฒนธรรมของ จ.ไอจิ อีกด้วย
**********************************************************************
ศาลเจ้าอัตสึตะ (熱田神宮 / Atsuta Shrine)
+ ที่ตั้ง : 1-1-1, Jingu, Atsuta-ku, Nagoya
+ เวลาให้บริการ : จ.-ศ. > 10.00-18.00 น., ส.-อา. (และวันหยุดญี่ปุ่น) > 09.00-19.00
+ ติดต่อ : 052-671-0010 / เว็บไซต์ : www.atsutajingu.or.jp (ญี่ปุ่น / อังกฤษ)
+ วิธีเดินทาง :
>Nagoya Subway : นั่งรถไฟใต้ดิน สาย M - Meijo Line (สีม่วง) มาลงสถานี M27-Jingu-Nishi
>JR Central : นั่งรถไฟสาย Tokaido Main Line (จากสถานี Nagoya) มาลงที่สถานี Atsuta
>Meitetsu : นั่งรถไฟสาย Meitetsu Nagoya Main Line (จากสถานี Meitetsu-Nagoya) มาลงที่สถานี Jingumae