เมื่อผมมาถึงฮิโรซากิซึ่งเป็นที่ที่ผมค้นพบจากแผ่นพับเล็ก ๆที่สำนักงานการท่องเที่ยว แผ่นพับนั้นเขียนว่า”8 อาหารท้องถิ่นสูตรพิเศษ”และมีข้อมูลประเภทอาหารและประวัติของมัน ตัวอย่างเช่น อาคารท้องถิ่นส่วนใหญ่เค็มมากซึ่งเกลือช่วยเพิ่มความดันในเลือดและทำให้คนทนความหนาวในฤดูหนาวได้ดี ผมได้ลองอาหารเหล่านี้ที่ร้านอันซุ บาร์โบราณ(ร้านอาหาร/บาร์)ในใจกลางเมืองใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ที่นี่ไม่เพียงเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มของท้องถิ่นเท่านั้นแต่ยังจัดการแสดงดนตรีพื้นบ้านด้วย
ที่นี่เป็นสถานที่เก่าแก่เต็มไปด้วยบรรยากาศเก่าๆ ผมถอดรองเท้าออกที่ทางเข้าและก้าวขึ้นไปบนพื้นไม้ขัดเข้าไปในห้องที่มีโต๊ะเตี้ยและเบาะรองนั่งรอบด้านและเคาน์เตอร์สีเหลี่ยมต่ำตรงกลางซึ่งผมคิดว่าจุดนี้สมัยก่อนเป็นเตาปรุงอาหาร ดูน่าสนุกดีนะ ข้างบนเพดานมีโคมไฟห้อยลงมาและผนังตกแต่งด้วยลายที่ยุ่งเหยิงพร้อมทั้งมีโปสเตอร์และเมนูที่เขียนด้วยมือ นอกจากนี้ยังมีแก้วสาเกซึ่งบางแก้วหรูหรา บางแก้วสีสันฉูดฉาด บางแก้วน่ารักวางเรียงกันอยู่ การผสมผสานของการตกแต่งร้านและเสียงพูดคุยจากลูกต้าโต๊ะอื่นๆช่วยสร้างบรรยากกาศที่มีชีวิตชีวา คุณสามารถไปพูดคุยกับคนเหล่านี้อย่างสนุกสนานได้ ตอนที่ผมอยู่ที่นั่น มีผู้หญิงโต๊ะข้างๆที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อยช่วยผมแปลเมนูภาษาญี่ปุ่นไม่อย่างนั้นผมก็ไม่รู้ว่าจะลองทานอะไรดี
ผมเริ่มมื้ออาหารด้วยไคยะกิมิโสะ เป็นอาหารทะเลหลายๆอย่างปรุงกับเต้าหู้,ผักและไข่ใส่ในเปลือกหอยขนาดใหญ่มีแบบเสิร์ฟเป็นหม้อไฟและเป็นจานเดี่ยว จานนี้ออกเป็นครีมข้นและร้อนแต่การทานจากเปลือกหอยไม่ได้ทำให้ผมอิ่มเท่าไรดังนั้นผมเลยสั่งฮิโรซากิ อิกาเมนชิอีก 2 ที่ จานนี้เป็นพายรูปทรงลูกชิ้นทอดในน้ำมันเสิร์ฟพร้อมกับหนวดปลาหมึกสับซึ่งมีรสชาติดีกว่าเสียงของมันเวลาเคี้ยว ฮิโรซากิเป็นเมืองที่เด่นในการปลูกแอปเปิ้ลของประเทศญี่ปุ่น ผมลองดื่มน้ำแอปเปิ้ลเป็นอย่างแรกและได้ซื้อแอปเปิ้ลไซเดอร์ขวดกลับบ้าน
ในขณะที่ผมอยุ่ที่นั่น ผมได้ชมการแสดงดนตรีที่แสดงโดยชายหนุมที่มีพรสวรรค์เล่นเครื่องดนตรี 3 สายที่คล้ายแบนโจแต่เสียงหนักแน่นกว่าเป็นเวลา 20 นาที นี่คือความบันเทิงที่ได้เพิ่มบรรยากาศเก่าๆเข้าไปและถ้าที่ผมอ่านป้ายมาไม่ผิดมันเขียนว่ามีการแสดง 2 ครั้งทุกๆคืน ดังนั้นการกินอาหารท้องถิ่น ดื่มเครื่องดื่มท้องถิ่นและฟังเพลงท้องถิ่นที่ร้านอันซุถือเป็นประสบการณ์ที่ครบวงจรจริงๆ