ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานในญี่ปุ่น ข้าว ถูกใช้แทนเงินตรา เป็นทั้งสินค้า อาหาร และ ณ ปัจจุบัน เป็นผลงานศิลปะ! ฮิโรซากิ (Hirosaki) อาจมีชื่อเสียงเพราะเทศกาลชมดอกซากุระที่งดงาม แต่หมู่บ้านข้างๆอย่างอินาคาดาเตะ (Inakadate) ก็มีศิลปะสร้างสรรค์บนทุ่งข้าว ที่สร้างชื่อเสียงให้หมู่บ้านเล็กๆในจังหวัดอาโอโมริ (Aomori) แห่งนี้ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของทุกปีเหมือนกัน
ในปี 1993 นักโบราณคดีในหมู่บ้านค้นพบว่า มีการเพาะปลูกข้าวในละแวกนี้มากว่า 2,000 ปีแล้ว เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง และนำชีวิตชีวากลับคืนมาสู่ท้องถิ่นอีกครั้ง จึงเป็นที่มาของการสร้าง “ทันโบะ (tanbo)” หรือ ศิลปะบนทุ่งข้าว แต่อย่าได้จำสับสนกับ crop circle ที่เคยพบบนทุ่งข้าวโพดของชาวตะวันตกนะครับ ผลงานศิลปะของที่นี่ไม่ได้สร้างโดยมนุษย์ต่างดาว หรือแม้แต่การถอนต้นข้าวออกแต่อย่างใด แต่กรรมวิธีสร้างงาน มาจากแรงงานอาสาสมัคร ที่ลงมือปลูกข้าวเพื่อสร้างผลงานชิ้นเอกล้วนๆ
เจ้าหน้าที่ของทางหมู่บ้าน ได้ตกลงใจจะสร้างงานศิลปะบนทุ่งข้าว ไว้ตรงด้านนอกที่ทำการหมู่บ้าน คิดว่าพวกเขาคงจะเบื่อ ที่ไม่มีอะไรทำในช่วงพักเที่ยง เลยสร้างปราสาทกับหอคอยติดกับตึกของทางราชการซะเลย ผลงานศิลปะที่ทำ จะได้ไม่ถูกชื่นชมจากคนบนเครื่องบินเท่านั้น นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ เมื่อขึ้นไปบนหอคอย จะได้ชมทั้งวิวของเมือง และงานศิลปะด้านล่างในมุมมองที่สุดยอดเลยล่ะครับ สำหรับการออกแบบงาน จะเริ่มต้นจากในคอมพิวเตอร์ คำนวณมุมมองของนาข้าวที่มองเห็นจากมุมสูง พอถีงฤดูทำนา ก็จะมีการปลูกข้าว 4 ถึง 5 พันธุ์ ที่มีขนาดลำต้นและสีสันที่แตกต่างเฉพาะตัว ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ช่างน่าทึ่งเกินจะจินตนาการครับ
พอได้ถ่ายรูปเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาลงมาด้านล่าง เพื่อให้นักท่องเที่ยวคนอื่นได้ขึ้นไปชื่นชมความงามบ้าง ในร้านของที่ระลึก จะมีรูปของศิลปะทุ่งข้าวในอดีต ซึ่งผมได้นำมาให้คุณๆได้ชื่นชมในบทความนี้ด้วยแล้ว ภาพยอดนิยม ได้แก่ ภาพชาวบ้านกับพุทธองค์ ภูติผีจากความเชื่อพื้นบ้าน หรือไม่ก็สร้างงานตามผลงานศิลปินมีชื่อ อย่างงานพิมพ์ไม้ของโฮะคุไซ (Hokusai) สำหรับผลงานจะมีการออกแบบใหม่ทุกปี และนับวันก็จะงดงามยิ่งขึ้นครับ
แค่ขับรถ หรือนั่งรถเมล์ระยะสั้นๆจากตัวเมืองฮิโรซากิ แล้วเดินต่ออีกหน่อย คุณก็จะได้ชื่นชมวิวจากศิลปะทุ่งข้าว ที่สอดประสานไปกับจุดท่องเที่ยวของเมืองอย่างกลมกลืน แล้วคุณจะมีอีกวันที่เพลิดเพลินครับ Have a rice day
