มันคือราเม็งสัญชาติญี่ปุ่นที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นนิวยอร์ก ซิดนีย์ ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ โซล ไทเป สิงคโปร์ หรือกัวลาลัมเปอร์
และเป็นราเม็งที่นิชชินเคยเอาไปทำเป็นบะหมี่สำเร็จรูปใส่ถ้วยขายในเซเว่นอีเลฟเว่นมาแล้ว
แต่กินที่ไหนคงไม่ฟินเท่ากับกินที่สาขาต้นตำรับในฟุกุโอกะอย่างแน่นอน
ถึงแม้สไตล์จะดูต่างจากร้านราเม็งตามตำรับญี่ปุ่นแท้ๆ ด้วยการทำร้านที่สร้างความรู้สึกใหม่ให้กับลูกค้า แต่หากวัดกันที่รสชาติก็ต้องบอกว่าอร่อยล้ำจริงๆ
เป็นที่รู้กันดีในหมู่ชาวญี่ปุ่นว่า “อิปปุโด” ซึ่งเรียกกันว่าเป็นฮากาตะราเม็ง หรือราเมนจากฟุกุโอกะนั้น มีเอกลักษณ์คือน้ำซุปกระดูกหมูที่เข้มข้ม (และมัน) เส้นที่ทำอย่างสดใหม่ เนื้อหมูและเครื่องเคียงที่ใส่อย่างไม่ยั้งมือ รวมถึงไข่ที่เยิ้มจนอดใจไม่อยู่
แม้จะมีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่น แต่ร้านอิปปุโดสาขาแรกที่ตั้งขึ้นในปี 1985 นั้นกลับซ่อนตัวอยู่ในถนนสายเล็กๆ ในย่านไดเมียวใจกลางเมืองฟุกุโอกะ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นทำเลสุดฮิปของเมืองไปแล้ว ส่วนชื่อ “อิปปุโด” นั้นมาจากคำว่า Single Gust of Wind อันหมายถึงลมที่หวังจะให้มาช่วยเปลี่ยนทิศทางของอุตสาหกรรมราเม็งของเกาะคิวชูที่ซบเซาในตอนนั้นให้รับกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง
และนั่นจึงไม่น่าแปลกใจว่าร้านราเม็งอิปปุโดนั้น นอกจากจะตกแต่งให้ดูทันสมัยและมีพลังต่างออกไปจากร้านราเม็งญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ยังเสิร์ฟราเม็งที่มีรสชาติแปลกใหม่ โดยเฉพาะการเติมเครื่องปรุงอย่างกระเทียมเข้าไปในราเม็ง ในแบบที่ราเม็งดั้งเดิมนั้นไม่มี ส่วนน้ำซุปกระดูกหมูที่เป็นตัวยืนของร้านก็ยังแบ่งออกเป็นชามสีขาวและชามสีแดงให้ลูกค้าเลือก (แนะนำว่าให้ลองเลือกสีแดงซึ่งมีรสชาติเข้มข้นกว่า) รวมถึงการเลือกระดับความเผ็ด ทั้งยังสามารถกำหนดเวลาในการลวกเส้นบะหมี่ให้แข็งหรือนุ่มได้ตามต้องการใน 9 ระดับเลยทีเดียว
แน่นอนว่านอกจากน้ำซุปกระดูกหมูข้นคลั่กที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน หากไม่ชอบใจลูกค้ายังสามารถเลือกสั่งซุปมิโสะ โชยุ หรือซุปดั้งเดิมอื่นๆ ได้อีกด้วย อย่าลืมสั่งเกี๊ยวซ่ามาทานคู่กันไปด้วยเพราะอร่อยมาก
ไม่เพียงเท่านั้น ร้านราเม็งมากความคิดนี้ยังต่อยอดไปอีกขั้นด้วยการร่วมมือกับวงกลองญี่ปุ่นอย่าง Tao เปิดร้านราเม็งในคอนเซปต์ IPPUDO X Tao หยิบจับสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมอย่างวงกลองญี่ปุ่นมาสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงขึ้นไปอีก โดยใช้การตกแต่งที่สะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของวงที่ใช้สีแดงและสีดำเป็นหลัก
กลายเป็นนิยามใหม่ของราเม็งจากฟุกุโอกะ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือรสชาติเข้มข้นที่กินเมื่อไหร่ก็อร่อยไปเสียทุกที!
การเดินทาง: Subway Nanakuma Line สถานี Yakuin