เมื่อนึกถึงประเทศญี่ปุ่น คนมักจะนึกถึงความทันสมัยเป็นอันดับแรก เทคโลโลยีที่ล้ำยุค และเมืองคนกรีตหรือไม่ก็มหันตภัยแผ่นดินไหว แต่ฉันเดาว่ามีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าประเทศญี่ปุ่นรักษามรดกของชาติและประเพณีให้อยู่รอดปลอดภัยจากโลกที่เต็มไปด้วยความรีบเร่ง ย้อนกลับไปที่บ้านเกิดของฉันในประเทศอินเดีย หลายหมู่บ้านค่อยๆ ผสมรวมกันเป็นเมืองใหญ่ซึ่งมันก็ดีและมีความจำเป็นในบางกรณี แต่ก็อย่างที่พ่อของฉันมักจะย้ำอยู่เสมอว่าพวกเราไม่ควรลืมรากเหง้าของตัวเอง และนั่นก็เป็นสิ่งที่ฉันพบในประเทศญี่ปุ่น ข้อความที่ว่าใครคนหนึ่งสามารถจะแตะท้องฟ้าได้โดยไม่ทิ้งรากเหง้า และเพื่อที่จะค้นหาความหมายของข้อความนี้ให้มากขึ้น พวกเราและเพื่อนๆ ชาวอินเดียรวมทั้งหมด 6 ครอบครัวก็เริ่มเดินทางทริปวันหยุดเพื่อไปยังหมู่บ้านประวัติศาสตร์อันสวยงามแห่งชิราคาวาโกะ (เมืองเก่าแม่น้ำสีขาว) ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านชิราคาวาในจังหวัดกิฟุ
หมู่บ้านแบบดั้งเดิมและมีทิวทัศน์ที่งดงาม มีชื่อเสียงโด่งดังมาจากกระท่อมชาวนามุงหลังคาหญ้าแฝกที่เรียกว่า ‘กัสโช-ซุคุริ’ (การสร้างที่เหมือนกับท่าพนมมือภาวนา) เป็นการออกแบบเพื่อให้มีความทนทานต่อหิมะที่ตกอย่างหนักในฤดูหนาว และลักษณะเฉพาะอีกอย่างหนึ่งคือหลังคาของกระท่อมเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปู และห้องใต้หลังคาก็ถูกใช้เป็นที่ผลิตตัวไหมสืบต่อกันมา กระท่อมบางหลังมีอายุเก่าแก่มากกว่า 250 ปี และปัจจุบันหมู่บ้านนี้ก็ได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก
พวกเราไปเที่ยวที่ชิราคาวาโกะในวันเสาร์อาทิตย์แรกของเดือนมีนาคมปีนี้ (2012) และพักค้างคืนที่กระท่อมแบบกัสโชซุคุริที่ชื่อว่า โนดานิยะ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราพักในบ้านพักแบบญี่ปุ่น มันเป็นประสบการณ์ที่วิเศษมาก ด้วยการตกแต่งภายในแบบญี่ปุ่น อาหาร และการต้อนรับทำให้ยิ่งรู้สึกพิเศษมากขึ้นไปอีก เนื่องจากพวกเราเช่าเหมารถบัสสำหรับการเดินทางก็เลยยิ่งสะดวกสบายเพราะเราจอดรถบัสไว้ที่หน้าบ้านพักเลย คุณมายูมิเจ้าของบ้านพักเป็นสุภาพสตรีที่สุภาพร่าเริงต้อนรับเราด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นและพาพวกเราเดินชมรอบๆ ตัวบ้าน
พื้นที่ส่วนต้อนรับได้รับการตกแต่งอย่างดีด้วยงานหัตถกรรมท้องถิ่นและภาพถ่ายใส่กรอบรูปที่แสดงถึงประวัติศาสตร์และฤดูกาลของสถานที่แห่งนี้ ทางด้านขวาเป็นระเบียงพื้นไม้กับห้องสไตล์ญี่ปุ่นทั้งสองข้าง ห้องพักสามารถเชื่อมต่อกันได้ทั้งหมดและสามารถกั้นได้ด้วยการเลื่อนประตูปิด เสื่อตาตามิแบบดั้งเดิมถูกปูเตรียมไว้อย่างเรียบร้อยและโต๊ะรับประทานอาหารแบบญี่ปุ่นก็ถูกจัดวางไว้ที่ตรงกลางของทุกห้องพร้อมชุดชาเขียวและคุกกี้แบบท้องถิ่น
หลังจากจัดเก็บกระเป๋าเดินทางแล้วพวกเราก็มุ่งหน้าออกไปดูสถานที่โดยรอบ และหลังจากช่วงเวลาพักผ่อนอันน่าอัศจรรย์จากการสำรวจหมู่บ้านที่ปกคลุมด้วยหิมะ และเมื่อกลับไปถึงบ้านพัก อาหารมื้อค่ำก็ถูกจัดเตรียมไว้รอพวกเราแล้ว การจัดเตรียมและการตกแต่งทั้งหมดเรียกได้ว่าเป็นงานศิลปะที่ยอดเยี่ยม มันช่างดึงดูดใจและน่ายั่วยวนเสียเหลือเกิน ฉันประหลาดใจที่คุณมายูมิสามารถจัดการสิ่งต่างๆ มากมายในช่วงเวลาอันสั้น เมื่อเราอิ่มกับมื้ออาหารเพื่อสุขภาพที่หรูหราแล้ว เพื่อนบางคนก็ออกไปผ่อนคลายกับการอาบน้ำแบบออนเซนที่อยู่ใกล้ๆ ในขณะที่พวกเราสนุกกับการนอนคุยบนฟูกที่ถูกปูเตรียมเอาไว้
โนดานิยะมีห้องน้ำสองห้องแยกไว้สำหรับสุภาพบุรุษกับสุภาพสตรี และอ่างล้างหน้าสองใบ มีโรงอาบน้ำรวมเพียงแห่งเดียวที่มีอ่างอาบน้ำร้อนและมีครัวใหญ่ที่มีอุปกรณ์ครบครันพร้อมไมโครเวฟ ตู้เย็นและเครื่องใช้อื่นๆ ห้องต่างๆ มีเครื่องทำความร้อน และหลังจากผ่านคืนฝันหวานในการนอนหลับอย่างสบายในฤดูหนาว เราก็ตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่เพื่อพบกับอาหารเช้าที่ได้รับการจัดเตรียมอย่างประณีต
หลังจากอิ่มหนำกับอาหารเช้าแสนอร่อย ก่อนที่พวกเราจะเช็คเอ้าต์ออกจากบ้านพักในเวลาราวๆ 9 โมงเช้า พวกเราได้ขอบคุณความมีน้ำใจและความสุภาพเรียบร้อยของคุณมายูมิครั้งแล้วครั้งเล่าสำหรับความอุตสาหะอันพิถีพิถันที่ทำให้การเข้าพักของพวกเราที่โนดานิยะเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและน่าจดจำ
โนดานิยะ กัสโช-ซุคุริ
กระท่อมชาวนาแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ชิราคาวาโกะ
บ้านไร่ญี่ปุ่นขนานแท้ที่ชิราคาวาโกะ
เมื่อนึกถึงประเทศญี่ปุ่น คนมักจะนึกถึงความทันสมัยเป็นอันดับแรก เทคโลโลยีที่ล้ำยุค และเมืองคนกรีตหรือไม่ก็มหันตภัยแผ่นดินไหว แต่ฉันเดาว่ามีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าประเทศญี่ปุ่นรักษามรดกของชาติและประเพณีให้อยู่รอดปลอดภัยจากโลกที่เต็มไปด้วยความรีบเร่ง ย้อนกลับไปที่บ้านเกิดของฉันในประเทศอินเดีย หลายหมู่บ้านค่อยๆ ผสมรวมกันเป็นเมืองใหญ่ซึ่งมันก็ดีและมีความจำเป็นในบางกรณี แต่ก็อย่างที่พ่อของฉันมักจะย้ำอยู่เสมอว่าพวกเราไม่ควรลืมรากเหง้าของตัวเอง และนั่นก็เป็นสิ่งที่ฉันพบในประเทศญี่ปุ่น ข้อความที่ว่าใครคนหนึ่งสามารถจะแตะท้องฟ้าได้โดยไม่ทิ้งรากเหง้า และเพื่อที่จะค้นหาความหมายของข้อความนี้ให้มากขึ้น พวกเราและเพื่อนๆ ชาวอินเดียรวมทั้งหมด 6 ครอบครัวก็เริ่มเดินทางทริปวันหยุดเพื่อไปยังหมู่บ้านประวัติศาสตร์อันสวยงามแห่งชิราคาวาโกะ (เมืองเก่าแม่น้ำสีขาว) ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านชิราคาวาในจังหวัดกิฟุ
หมู่บ้านแบบดั้งเดิมและมีทิวทัศน์ที่งดงาม มีชื่อเสียงโด่งดังมาจากกระท่อมชาวนามุงหลังคาหญ้าแฝกที่เรียกว่า ‘กัสโช-ซุคุริ’ (การสร้างที่เหมือนกับท่าพนมมือภาวนา) เป็นการออกแบบเพื่อให้มีความทนทานต่อหิมะที่ตกอย่างหนักในฤดูหนาว และลักษณะเฉพาะอีกอย่างหนึ่งคือหลังคาของกระท่อมเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นโดยไม่ใช้ตะปู และห้องใต้หลังคาก็ถูกใช้เป็นที่ผลิตตัวไหมสืบต่อกันมา กระท่อมบางหลังมีอายุเก่าแก่มากกว่า 250 ปี และปัจจุบันหมู่บ้านนี้ก็ได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก
พวกเราไปเที่ยวที่ชิราคาวาโกะในวันเสาร์อาทิตย์แรกของเดือนมีนาคมปีนี้ (2012) และพักค้างคืนที่กระท่อมแบบกัสโชซุคุริที่ชื่อว่า โนดานิยะ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราพักในบ้านพักแบบญี่ปุ่น มันเป็นประสบการณ์ที่วิเศษมาก ด้วยการตกแต่งภายในแบบญี่ปุ่น อาหาร และการต้อนรับทำให้ยิ่งรู้สึกพิเศษมากขึ้นไปอีก เนื่องจากพวกเราเช่าเหมารถบัสสำหรับการเดินทางก็เลยยิ่งสะดวกสบายเพราะเราจอดรถบัสไว้ที่หน้าบ้านพักเลย คุณมายูมิเจ้าของบ้านพักเป็นสุภาพสตรีที่สุภาพร่าเริงต้อนรับเราด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นและพาพวกเราเดินชมรอบๆ ตัวบ้าน
พื้นที่ส่วนต้อนรับได้รับการตกแต่งอย่างดีด้วยงานหัตถกรรมท้องถิ่นและภาพถ่ายใส่กรอบรูปที่แสดงถึงประวัติศาสตร์และฤดูกาลของสถานที่แห่งนี้ ทางด้านขวาเป็นระเบียงพื้นไม้กับห้องสไตล์ญี่ปุ่นทั้งสองข้าง ห้องพักสามารถเชื่อมต่อกันได้ทั้งหมดและสามารถกั้นได้ด้วยการเลื่อนประตูปิด เสื่อตาตามิแบบดั้งเดิมถูกปูเตรียมไว้อย่างเรียบร้อยและโต๊ะรับประทานอาหารแบบญี่ปุ่นก็ถูกจัดวางไว้ที่ตรงกลางของทุกห้องพร้อมชุดชาเขียวและคุกกี้แบบท้องถิ่น
หลังจากจัดเก็บกระเป๋าเดินทางแล้วพวกเราก็มุ่งหน้าออกไปดูสถานที่โดยรอบ และหลังจากช่วงเวลาพักผ่อนอันน่าอัศจรรย์จากการสำรวจหมู่บ้านที่ปกคลุมด้วยหิมะ และเมื่อกลับไปถึงบ้านพัก อาหารมื้อค่ำก็ถูกจัดเตรียมไว้รอพวกเราแล้ว การจัดเตรียมและการตกแต่งทั้งหมดเรียกได้ว่าเป็นงานศิลปะที่ยอดเยี่ยม มันช่างดึงดูดใจและน่ายั่วยวนเสียเหลือเกิน ฉันประหลาดใจที่คุณมายูมิสามารถจัดการสิ่งต่างๆ มากมายในช่วงเวลาอันสั้น เมื่อเราอิ่มกับมื้ออาหารเพื่อสุขภาพที่หรูหราแล้ว เพื่อนบางคนก็ออกไปผ่อนคลายกับการอาบน้ำแบบออนเซนที่อยู่ใกล้ๆ ในขณะที่พวกเราสนุกกับการนอนคุยบนฟูกที่ถูกปูเตรียมเอาไว้
โนดานิยะมีห้องน้ำสองห้องแยกไว้สำหรับสุภาพบุรุษกับสุภาพสตรี และอ่างล้างหน้าสองใบ มีโรงอาบน้ำรวมเพียงแห่งเดียวที่มีอ่างอาบน้ำร้อนและมีครัวใหญ่ที่มีอุปกรณ์ครบครันพร้อมไมโครเวฟ ตู้เย็นและเครื่องใช้อื่นๆ ห้องต่างๆ มีเครื่องทำความร้อน และหลังจากผ่านคืนฝันหวานในการนอนหลับอย่างสบายในฤดูหนาว เราก็ตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่เพื่อพบกับอาหารเช้าที่ได้รับการจัดเตรียมอย่างประณีต
หลังจากอิ่มหนำกับอาหารเช้าแสนอร่อย ก่อนที่พวกเราจะเช็คเอ้าต์ออกจากบ้านพักในเวลาราวๆ 9 โมงเช้า พวกเราได้ขอบคุณความมีน้ำใจและความสุภาพเรียบร้อยของคุณมายูมิครั้งแล้วครั้งเล่าสำหรับความอุตสาหะอันพิถีพิถันที่ทำให้การเข้าพักของพวกเราที่โนดานิยะเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและน่าจดจำ