ภูเขาโยเท (1,898 เมตร) เป็นภูเขาไฟสลับชั้นมีพลังที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติชิโกะสึ-โทยะในฮอกไดโด โยเทมีบางสิ่งที่คล้ายคลึงกับภูเขาฟูจิและติด 100 อันดับภูเขาชื่อดังชองญี่ปุ่น ผมอยากจะปีนภูเขาโยเทในหน้าร้อนมาตั้งนานแล้ว แต่ในเมื่อตอนนี้เป็นฤดูหนาว เพื่อนกับผมก็ตัดสินใจลองดูเลย
เราเริ่มปีนเขาตั้งแต่ 6 โมงเช้าที่ตีนเขาตรงทะเลสาบฮันเก็ตสึซึ่งเป็นทางที่มีระดับกลาง ๆ ไปถึงปีนยากด้วยระยะทางยาว 6.2 กิโลเมตรและสูงประมาณ 1,590 เมตร ตีนเขาที่ทะเลสาฮันเก็ตสึอยู่ใกล้สุดกับหมู่บ้านฮิราฟุและคัตจัง แถมยังมีช่วงที่ท้าทายที่สุดจากสี่เส้นทางปีนขึ้นภูเขา ทางขึ้นเขามีความลาดชันเฉลี่ย 27% และยิ่งคุณปีนขึ้นไปสูงขึ้น เส้นทางก้จะยิ่งชันและยากยิ่งขึ้นด้วยความลาดชันที่เพิ่มเป็น 50%
ภูเขาแบ่งออกเป็น 10 จุดพัก: ตีนเขาเป็นจุดที่หนึ่ง และยอดเขาเป็นจุดที่ 10 แต่ละจุดหมายถึงระยะทาง 10% เพราะฉะนั้นเมื่อคุณขึ้นไปถึงจุดที่ห้า ก็จะรู้ว่าปีนเขามาได้ครึ่งทางแล้ว เส้นทางจะเริ่มแบบสบาย ๆ ก่อนจะชันขึ้นตั้งแต่จุดที่สามเป้นต้นไป มีทางคดเคี้ยวอยู่หลายช่วงที่มีวิวสวยชวนตะลึงข้ามหุบเขาไปสู่นิเซโกะและคัตจัง แล้วก็ยังมีพรรณพืชและพรรณไม้บนภูเขามากมายบวกกับสัตว์ป่าในพื้นที่
ระหว่างทางขึ้นเขา รอบตัวเราเต็มไปด้วยนกหัวขวานฮอกไกโดสุดสวยที่กำลังเจาะไม้และยังเจอกับกระแตไซบีเรียสุดเชื่องด้วย ทางขึ้นเขานั้นแคบมากและเต็มไปด้วยโคลนกับหิน และบางช่วงต้องใช้มือกับเท้าช่วยปีน ทางขึ้นเขาจะทอดผ่านป่าทึบเป็นทางยาวไปจนถึงจุดที่เก้า ซึ่งต้นไม้จะหลีกทางให้หินภูเขาไฟ เมื่อมาถึงจุดพักที่เก้าจะเจอกับทางแยก ทางซ้ายจะไปยอดเขา และทางขวาไปเพิงพักของภูเขาโยเทถ้าคุณจะค้างคืนที่นี่
พอเรามาถึงจุดที่ 10 ก็รู้สึกตัวมันโล่งไปหมดเมื่อเจอกับวิวที่สวยชวนตะลึงของปล่องภูเขาไฟโยเทสุดลึก จากตรงนี้คุณสามารถเดินไปรอบปากปล่องภูเขาไฟที่ขรุขระเพื่อไปถึงจุดที่อยู่สูงที่สุดของภูเขาซึ่งมีแผ่นไม้ปักไว้เป็นสัญลักษณ์ ทางเดินจากจุดที่ 10 ไปยังจุดสูงสุดของภูเขาใช้เวลาประมาณ 35 นาที และถ้าคุณจะเดินให้รอบปากปล่องผมคิดว่าน่าจะใช้สัก 1.5 ชั่วโมง ตอนที่เราเดินรอบปากปล่องก็เพลิดเพลินไปกับวิวที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เมื่อเมฆลอยเข้ามาและทำให้เกิดบรรยากาศที่ทั้งเย็นทั้งครึ้ม
แน่นอว่าถ้าวันที่อากาศสดใสน่าจะดีที่สุด แต่ผมก็ไม่ได้บ่นอะไร จริง ๆ แล้วผมมีความสุขมากกับการดูก้อนเมฆที่ปะทะเข้ามาวนรอบปากปล่อง และชอบความรู้สึกที่เหมือนกับได้ลอยอยู่ในก้อนเมฆบนยอดภูเขา เราทานมื้อเที่ยงไปพร้อมกับชมวิวด้านล่างปากปล่องก่อนจะเริ่มเดินทางขาลงสุดหฤโหด ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าขาลงก็ยากพอ ๆ กับตอนปีนขึ้นซึ่งทางหินลาดชันมันช่างทรมานหัวเข่าและและกล้ามเนื้อต้นขายิ่งนัก ขาลงเขาเราใช้เวลาไป 3.5 ชั่วโมง
ถ้าคุณคิดจะปีนเขาโยเท ข้อมูลนี้อาจมีประโยชน์ในการช่วยวางแผน:
เราใช้เวลา 4.5 ชั่วโมงไปถึงยอดเขา และขาลงใช้เวลา 3.5 ชั่วโมง ถ้าเกิดคุณไม่ค่อยมีประสบการณ์ปีนเขาสูง ขาขึ้นอาจจะใช้เวลาสัก 6-8 ชั่วโมง
เอาน้ำไปเผื่อเยอะ ๆ ผมกินน้ำไปราว 4 ลิตรกับอาหารอีกนิดหน่อย บนภูเขาไม่มีแหล่งน้ำสะอาดให้ดื่ม
ขอแนะนำให้นำไม้ช่วยปีนเขาไปด้วย โดยเฉพาะตอนขาลง ถุงมือก็จะมีประโยชน์เพราะในบางช่วงต้อง 'ตะกาย' ขึ้นไป
ถ้ามีพยากรณ์อากาศว่าฝนจะตก หรือมีฝนตกหนักเมื่อวันก่อน ให้ยกเลิกการปีนได้เลย
ทางแคบ ๆ จะเต็มไปด้วยโคลนและลื่นง่ายมาก
เก็บขยะของคุณด้วย อย่าทำลายความงามของที่ ๆ คุณมาเที่ยว!
จะเดินทางมาที่ตีนเขาตรงทะเลสาบฮันเก็ตสึ ให้ใช้ถนนสาย 5 จากคัตจังหรือฮิราฟุ และเลี้ยวซ้ายที่ทางเข้าทะเลสาบฮันเก็ตสึ มีลานจอดรถขนาดใหญ่ ห้องสุขา น้ำดื่ม และพื้นที่ตั้งแคมป์เล็ก ๆ
เหนืออื่นใด ที่นี่คือสุดยอดประสบการณ์อันแสนสุขและเต็มอิ่มของการปีนภูเขาที่ติดอันดับสวยที่สุดของญี่ปุ่น