ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีจะมีเทศกาลหิมะซัปโปโรซึ่งประจวบเหมาะกับงานเทศกาลโคมไฟและดวงไฟหิมะที่จัดขึ้นในโอตารุพอดี โอตารุเป็นเมืองท่าเรือเล็กๆใช้เวลาเดินทางเพียงครึ่งชั่วโมงด้วยรถไฟจากซัปโปโร ฮอกไกโด เทศกาลนี้เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ โอตารุ ยูกิ อะการิ โนะ หรือเทศกาลโคมไฟหิมะ จัดขึ้น 10 วันติดต่อกันที่บริเวณ 2 แห่งในเมืองคือ อันกะ ไคโจและเทมิยาเซ็น ไคโจ 2 จุดจัดงานนี้อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟเดินเพียง 15 นาทีเท่านั้น อันกะ ไคโจมีชื่อเสียงมากกว่า มันตั้งอยู่เลียบคลองของเมืองโอตารุ(โอตารุ อันกะ) ในช่วงเทศกาล โคมไฟหิมะและรูปปั้นน่ารักจำนวนมากถูกนำไปประดับบริเวณจัดงานเหล่านี้โดยจะจุดดวงไฟทุกวันตั้งแต่เวลา 17:00-21:00 น. นอกจากนี้ยังมีการจุดโคมไฟไว้หน้าบ้านและร้านค้าจำนวนมากเพื่อทำให้งานเทศกาลดูยิ่งใหญ่ขึ้น
เดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นการเดินทางไปซัปโปโรครั้งแรกของเรา เราวางแผนจะไปดูมหกรรมโคมไฟนี้ตั้งแต่วันแรกๆ แม้ว่าการไปเยี่ยมชมเมืองโอตารุและเทศกาลนี้สามารถทำได้อย่างง่ายดายภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงของการเที่ยวแบบวันเดียวจบจากซัปโปโร เราก็ตัดสินใจที่จะพักค้างคืนและเพลิดเพลินไปกับเทศกาลนี้ เมื่อเรามาถึงโอตารุประมาณ 5 โมงเย็นเมืองก็เงียบสงบและสลัวๆไปด้วยความหนาวเย็น เราเข้าเช็คอินที่โรงแรมแกรนด์ พาร์ค โอตารุ ซึ่งค่อนข้างสะดวกสบายเพราะเชื่อมห้างสรรพสินค้าที่อยู่ติดสถานีโอตารุ ชิกโกะ ตัวโรงแรมยอดเยี่ยมมากทั้งในเรื่องการตกแต่งและสภาพแวดล้อม ถึงแม้ว่าจะไกลงานเทศกาลไปสักหน่อย(เดินประมาณ 30 นาที) เราเดินหาป้ายรถโดยสารตรงด้านหน้าโรงแรมและจากนั้นไม่นานก็ขึ้นรถตรงไปยังงานเทศกาลที่อันกะ ไคโจ จุดจัดงานที่ใกล้ฝั่งคลอง
ตอนลงจากรถ มองออกไปแล้วเหมือนกับว่าเมืองทั้งเมืองมีชีวิตชีวาดั่งอยู่ในความฝัน ในขณะที่เราเดินเข้าไปใกล้ฝั่งคลอง ภาพที่เห็นมันยิ่งเหมือนความฝันเข้าไปอีก คลองทั้งหมดถูกจุดไฟด้วยเทียนเปล่งประกายที่ลอยอยู่ในทุ่นและตะเกียงแก๊ซแบบโบราณเรียงรายไปยาวประมาณ 300 เมตรที่ด้านหนึ่งและอีกด้านหนึ่งเป็นโกดังที่มีหิมะกำลังหยด คืนเดือนหงายแสนงดงามช่วยเพิ่มสเน่ห์ให้งานยิ่งน่าหลงใหล ผู้คนรวมตัวกันเป็นกลุ่มๆเพื่อจะถ่ายภาพความมีชีวิตชีวาในงานนี้จากทุกๆมุม เราใช้เวลาหมดไปมากกับการถ่ายภาพให้สวย, เพลิดเพลินไปกับดวงไฟและเงาสวยๆในน้ำ เราตามฝูงชนไปตรงทางเดินเลียบคลอง พบโคมไฟหิมะและรูปปั้นเรียงรายตลอดทางเดินสีขาว โคมไฟหิมะยึดกับเทียนเปล่งประกายที่ให้ความอบอุ่นเบาสบายในอากาศอันหนาวเย็นลบ 6 องศาเซลเซียสเอาไว้และรูปสลักหัวใจเล็กๆนับร้อยได้บันทึกเรื่องราวความรักมากมายเอาไว้
บรรยากาศที่นี่โรแมนติกและเหมือนความฝัน, สบายๆและอบอุ่นในค่ำคืนอันหนาวเหน็บ เราไม่อยากให้ช่วงเวลานี้จบไป ถ้าไม่ใช่เพราะว่านิ้วมือและนิ้วเท้าที่ชาบังคับเราให้กลับไปหาอาหารร้อนๆแสนอร่อยที่บุฟเฟ่ต์มื้อค่ำในโรงแรม เราคงจะอยู่ต่อ
อยากบอกเพื่อนๆว่าถ้ามาเที่ยวซัปโปโรในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ห้ามพลาดงานเทศกาลแห่งความฝันในหน้าหนาวนี้
บ๊ายบาย!