เกียวโตเป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำ
นอกจากจะมีวัดและศาลเจ้าจำนวนมาก ยังมีเทศกาลหรืองานต่างๆ ที่มีประวัติอันยาวนาน ซึ่งจะมีขึ้นตลอดทั้งปี เกียวโตมีความเร่งรีบและคึกคักอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี แต่หลังจากที่สีสันของฤดูใบไม้ร่วงเริ่มจางหายไป จำนวนนักท่องเที่ยวก็จะเริ่มลดน้อยลงไปอย่างรวดเร็ว
ท้องฟ้ากลางฤดูหนาวในเกียวโต ค่อนข้างลึกลับ เมื่อผมมองขึ้นไป ก็จะเห็นเกล็ดหิมะสีขาว พลิ้วไหวอยู่ในท้องฟ้าสีฟ้า
เมฆหนาสีเทาชุมนุมกันอยู่ที่เทือกเขาทางภาคเหนือ และจะสลัดหิมะออกมามากมายใน บริเวณนะตะโชะของฟุกุอิ
ในขณะที่มองย้อนกลับไปในปีที่ผ่านมา ผมได้ไปเดินเล่นในสวนของวัดโทะจิ เกียวโต
ในปี 794 กังมุ เท็นโนะ (จักรพรรดิกังมุ) ได้ย้ายเมืองหลวงไปยังเฮะอิอันเกียว (ปัจจุบันคือเกียวโต) และแต่งตั้งวัดโทะจิเป็นวัดปกครองของรัฐ สิบปีต่อมาจักรพรรดิซะกะได้ต้อนรับ ท่านกุไก ที่เพิ่งกลับมาจากโตะห์ (จีนโบราณ) และได้ยกวัดนี้ให้แก่ท่านท่านกุไก
เมื่อพูดถึงเรื่องจักรพรรดิ ก็ต้องให้เครดิตกับจักรพรรดิซะกะ ที่วางรากฐานความเจริญรุ่งเรืองของเมืองเกียวโต ทำให้เกียวโตเจริญถึงจุดสูงสุดของยุคเฮอิอัน
ดูเหมือนว่าจักรพรรดิซะกะตัดสินใจได้เฉลียวฉลาดมากในความสามารถพิเศษของท่านกุไก และบุคลิกของท่านกุไกก็ชนะหัวใจของจักรพรรดิซะกะ
ในบริเวณวัดโทะจิ มีอาคารที่เคร่งขรึมเช่นศาลาโคะโดะ ศาลาโคะโดะและเจดีย์โกะจุ-โนะ-โตะอุ ดูสง่าผ่าเผยในประวัติศาสตร์อันยาวนาน
ผมเข้าไปในศาลาโคะโดะผ่านประตูโทะกะมอน ผมเห็นพระพุทธรูปไดนิชิ เนียวไร (พระไวโรจนพุทธะ) ประทับอยู่ตรงกลางมันดาลา ใบหน้าของพระพุทธรูปสงบนิ่ง และในทันทีทันใด ผมสังเกตเห็นขนาดของดวงตา และการแสดงออกของดวงตาทั้งสองข้างของพระพุทธรูป นั้นค่อนข้างแตกต่างกัน ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกเหมือนกับว่า ผมกำลังถูกกลืนหายไปในองค์พระพุทธรูป เวลาได้หยุดนิ่ง ดวงตาข้างขวาเต็มไปด้วยความรักความอ่อนโยน ดวงตาข้างซ้ายเต็มไปด้วยความมีเหตุผลและสงบเย็น พื้นที่ด้านหน้าของพระพุทธรูปก็เต็มไปด้วยความปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง และความสุขสำราญอันสุดยอด
ผมยืนอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 10 นาที แต่รู้สึกยาวนานกว่านั้น เหมือนกับว่าผมได้รับการไถ่บาป และได้ชำระจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์
ค่ำคืนค่อยๆ แผ่ปกคลุมตัวผม และแสงสลัวของสนธยาก็มืดลงในฉับพลัน ในทันทีทันใดนั้นเอง เสียงร้องของกาแผดเสียงกรีดอากาศเย็น
พวกมันกำลังบินกลับรัง
ไม่นานหลังจากเสียงกรีดร้องของกา เสียงของระฆังดัง ก่อง ก่อง ก่อง ... หนึ่ง สอง สาม