Osaka Expo 70 park (万博記念公園) สวนสาธารณะขนาดใหญ่ของเมืองโอซาก้า ที่ในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่จัดงานมหกรรมโลก หรือ EXPO'70 (The Japan World Exposition) ในช่วงระหว่างวันที่ 15 มีนาคม ถึง 13 กันยายน ค.ศ.1970 ซึ่งถือเป็นงานมหกรรมโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกนับตั้งแต่มีการจัดงานมหกรรมโลกมา (แต่ก็เพิ่งมาโดนงาน Shanghai World Expo เมื่อปีค.ศ. 2010 ล้มแชมป์ความยิ่งใหญ่ไป) นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบ 50 ปี อาคารต่างๆในงานที่ยิ่งใหญ่ต่างถูกทุบทิ้ง พื้นที่ทั้งหมดถูกวางผังใหม่ แปรเปลี่ยนให้กลายเป็นสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพรรณ ที่ต่างแบ่งเวลาออกดอกบานสวยตามช่วงเวลาในแต่ละฤดูแทน
แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่ยังหลงเหลือให้เห็นถึงอดีตที่เคยยิ่งใหญ่ของงานอยู่ นั่นคือ "อนุสาวรีย์ Tower of the Sun" หรือหอคอยแห่งดวงอาทิตย์ อนุสาวรีย์รูปทรงแปลกตาที่มองแล้วมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่เคยเป็นแลนด์มาร์กและเป็นจุดศูนย์กลางของงาน ออกแบบโดยนายโอคาโม ทาโร่ (Taro Okamoto) ศิลปินญี่ปุ่นผู้หลงไหลในศิลปะแบบ Abstract ผลงานอนุสาวรีย์ชิ้นนี้เป็นที่ตราตรึงใจของใครหลายๆคน และเป็นแรงบัลดาลใจให้นายนาโอกิ อุรุซาว่า นำอนุสาวรีย์แห่งนี้มาวาดร่วมอยู่ในการ์ตูนเรื่อง 20th Century Boy ซึ่งเป็นผลงานของเขาอีกด้วย ใกล้ๆกับหอคอยแห่งดวงอาทิตย์ยังมีอนุสาวรีย์โครงหลังคาที่เคยเป็นหลังคาที่ใช้คลุมงานเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่หลงเหลือไว้ให้ดูเป็นที่ระลึก
ภายในสวนสาธารณะจะมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจภายในอยู่ 2 พิพิธภัณฑ์ คือ National Museum of Ethnology และ Expo’70 Pavilion โดยพิพิธภัณฑ์แรกจะจัดแสดงสิ่งของต่างๆที่เคยจัดแสดงภายในศาลา(Pavilion) จากประเทศต่างๆที่เข้ารวมงานในช่วงนั้น โดยที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้นำมาจัดหมวดหมู่ใหม่แบ่งออกตามทวีปต่างๆและจัดแสดงสิ่งของตามวิวัฒนาการ วัฒนธรรม และความเป็นอยู่ตามช่วงเวลาไปเรื่อยๆ ส่วนพิพิธภัณฑ์ที่สองจะจัดแสดงเกี่ยวกับความยิ่งใหญ่ของงานในอดีต รวบรวมภาพ วีดีโอ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการจัดงาน
ความงามของต้นไม้และดอกไม้ของสวนแห่งนี้จะแปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามช่วงฤดูกาล ช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ จะเป็นเป็นต้นพลัมที่ออกดอกกันบานสะพรั่ง ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคมจะเป็นสวนซากุระและทุ่งดอกทิวลิป ช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคมจะเป็นสวนดอกลูพิน ช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายนเป็นต้นไม้เปลี่ยนสี
การเดินทางมาที่สวนแห่งนี้สามารถทำได้โดยขึ้นใช้รถไฟ Osaka Subway สายสีแดง Midosuji Line ลงรถที่สถานี Senri-chuo [M08] แล้วต่อรถไฟ Osaka Monorail ลงสถานี Banpaku-kinen-koen ค่าเข้าสวนราคาผู้ใหญ่ 250 เยน เด็ก 70 เยน (ไม่รวมค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ภายใน) สวนเปิดให้บริการ 9.30-17.00 น. (ประตูปิดก่อน 30 นาที) ปิดให้บริการทุกวันพุธ