ที่ตั้งของปราสาท (เครดิตรูปภาพ: Justin Dart)

ซากปราสาทนากิที่ถูกทำลาย

ป้อมปราการที่มองเห็นแม่น้ำคิโซ

ที่ตั้งของปราสาท (เครดิตรูปภาพ: Justin Dart)
Onlada Chollavorn   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

หลังช่วงวันที่ยาวนานของฤดูใบไม้ผลิที่หนาวเย็น ก็จะมีแสงดวงอาทิตย์ทอดข้ามลงมาที่หุบเขาแม่น้ำคิโซ เป็นวันที่ดีมากสำหรับการออกไปข้างนอกและ ผมก็ไม่ได้กลับมาที่ทำงานของผมอีก หลังจากกินข้าวเสร็จผมก็เดินไปที่ซากปราสาทนากิ ผมไม่ได้มาที่นี่มากว่า 11 ปี ในคิดว่าที่นี่เป็นที่ที่เหมาะแก่การกินอาหารกลางวันและการพักผ่อน เมื่อไปที่ถนน 257 ที่จะไปเจโร หลังจากข้ามสะพานนากิคุณก็จะพบซากปราสาทนากิอยู่ด้านบน ทุกครั้งที่ผมเดินทางผ่านที่นี่ไปทำงาน ผมก็นึกประหลาดใจ “จะดูเป็นอย่างไรที่นั่งอยู่บนโขดหิน”

มีหลายวิธีที่จะไปที่ซากปราสาท แต่วิธีที่ง่ายที่สุดคือไปตามถนนที่อยู่ด้านหลังพิพิธภัณฑ์ของปราสาท แต่ยังมีอีกทางคือผ่านป่าที่ทอดไปที่ฐานของมัน กลุ่มหินกรวดที่ถนนพาดผ่านนั้นถูกล้อมโดยกำแพงหิน ป่าจึงเป็นทางเข้าหลักไปยังส่วนดีของปราสาท หลังจากที่ผ่านไป5นาที ผมก็ถึงส่วนที่เหลือของบ้านคนคุ้มกันที่ซึ่งถนนหินกรวดสิ้นสุดและเป็นจุดเริ่มต้นของหินก้อนกลม

ผมใช้เวลาไม่นานในการยืนอยู่หน้ากำแพงด้านนอก ผมมักจะรู้สึกเกรงขามกับกำแพงหินแบบนี้ที่สามารถถูกสร้างขึ้นมาได้ ในปัจจุบันเราสร้างสิ่งต่างโดยใช้เครื่องจักรกล แต่กลับมาคิดว่าในอดีตที่คนสามารถวางหินให้ได้ตำแหน่งถูกต้อง จนได้กำแพงใหญ่ขนาดนี้ได้นั้นเป็นเรื่องที่น่าทึ่งยิ่งนัก ในหลายที่ที่ชาวบ้านถูกใช้แรงงานให้ขนหินขึ้นไปที่ฐานปราสาท เพื่อสร้างกำแพง กำแพงด้านนอกของปราสาทมีความสูงประมาณ 10 เมตรและมีที่ว่างสำหรับการสร้างบ้านผู้คุ้มกัน อยู่ที่มุมของกำแพงได้

ปราสาทที่หลายแห่งถูกสร้างในช่วงสงครามนั้นมีขนาดเล็กและ อยู่บนภูเขาเพื่อการป้องกันภัย ต่อมาในช่วงยุคสงบสุข ปราสาทขนาดใหญ่เช่น มัสซูโมโต้ และโอซาก้าก็ถูกสร้างขึ้นบนที่ราบ ปราสาทนากินั้นถูกสร้างโดย โทยาม่า นาโอะกาโดะ ในปี 1532 เป็นสิ่งก่อสร้างที่ทำด้วยไม้สีแดง บนที่สูงชันที่ข้างล่างคือแม่น้ำคิโซ เป็นเรื่องง่ายในการจู่โจมข้าศึกได้อย่างดีจากป่าทึบทางใต้ผ่านทางแคบๆ พวกเขาใช้บริเวณก้อนหินขนาดใหญ่ในการสร้างแพง มันถูกสร้างด้วยความเร่งรีบ และการใช้ชีวิตที่นี่ก็ไม่ได้หรูหราเหมือนที่ ฮิเมจิ หรือ นาโกย่า ผมก็ไปดูส่วนบนต่อที่ซึ่งปราสาทแบบดั้งเดิมตั้งอยู่ อากาศเริ่มที่จะร้อนและมีผู้หญิงแก่บางคนเป็นลมไป

ผมมาถึงส่วนบนที่มีบริเวณสังเกตการณ์ให้เห็นปราสาทได้ชัดเจน ผมกินอาหารกลางวันที่นั้น และเพลิดเพลินไปกับภูเขาเอน่า และหุบเขาแม่น้ำที่ทอดจากมาโกเมะ ไปเอน่า และทางเหนือจะพบกับ ภูเขาออนทาเกะที่มีหิมะปกคลุม

ตั้งแต่เริ่มยุคเมจิ ญี่ปุ่นก็เปลี่ยนไป ปราสาทไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป ในยุคเมจิที่4 (1871) ปราสาทนากิถูกรื้อถอน เอาไม้ไปประมูลขาย สิ่งที่เหลืออยู่ในวันนี้คือกำแพงหินและส่วนประตูหลัก (มอน) ที่แสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ปราสาท

หลังอาหารกลางวันผมก็นั่งรถกลับไปที่ทำงาน แล้วก็คิดว่าปราสาทนากินั้นเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงจากระบบศักดินาไปยังญี่ปุ่นสมัยใหม่

Onlada Chollavorn

Onlada Chollavorn @onlada.chollavorn

My name is Onlada. I am passionate about creative thinking and digital technology. My motto is “The price of success is hard work, dedication to the job at hand, and the determination that whether we win or lose, we have applied the best of ourselves to the task at hand.”