สิ่งแรกที่สดุดตาฉันเมื่อเดินผ่านประตูเข้าไปด้านในคือ ว่าวปลาคาร์ฟ ‘โคะอิโนะโบะริ’ (Koinobori) ที่แขวนอยู่เหนือลานของศาลเจ้า (เครดิตรูปภาพ: Suwannee Payne)

ชมศาลเจ้าที่งดงามของโอะมิฮะชิมาน

ศาลเจ้าฮิมุเระ ฮะชิมันกุ ของเทพเจ้าแห่งสงคราม

สิ่งแรกที่สดุดตาฉันเมื่อเดินผ่านประตูเข้าไปด้านในคือ ว่าวปลาคาร์ฟ ‘โคะอิโนะโบะริ’ (Koinobori) ที่แขวนอยู่เหนือลานของศาลเจ้า (เครดิตรูปภาพ: Suwannee Payne)
Suwannee Payne   - ใช้เวลาอ่าน 1 นาที

ฉันปั่นจักรยานฝ่าฝูงชนไปบนถนนที่มุ่งตรงไปยังเชิงเขาฮะชิมัน (Hachiman) ที่เมืองโอะมิฮะชิมาน (Omihachiman) ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบบิวะ (Biwa) เชิงเขาฮะชิมันทางด้านนี้ จะมีสถานีกระเช้าไฟฟ้าให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ขึ้นภูเขาไปชมวิวทะเลสาบบิวะ ก่อนที่จะถึงสถานีกระเช้าไฟฟ้าจะมีศาลเจ้าเก่าแก่และงดงามแห่งหนึ่ง ซึ่งควรค่าแก่การไปเยี่ยมชม คือศาลเจ้าฮิมุเระ ฮะชิมันกุ (Himure Hachiman-gū Shrine) สร้างขึ้นในปี 131 ศาลเจ้าฮิมุเระ ฮะชิมันกุ มีประวัติศาสตร์มายาวนาน แต่เดิมทีตั้งอยู่บนภูเขาฮะชิมัน และย้ายมาตั้งอยู่ในสถานที่ปัจจุบันในภายหลัง

เมื่อหาที่จอดจักรยานได้แล้ว ฉันพาตัวเองมายืนชื่นชมประตูไม้ที่สวยงดงามหน้าศาลเจ้า ตรงประตูมี ‘โคะไมนุ’ (Komainu) สัตว์ครึ่งสุนัขครึ่งสิงโต อยู่ถึงสี่ตัวยืนอารักขาขับไล่ภูตและสิ่งช่วยร้ายกันอย่างแข็งขัน ‘โคะไมนุ’ คู่แรกยืนอยู่ข้างหน้าประตู อีกคู่ที่ดูเก่าแก่กว่ามาก ยืนอยู่ใต้ประตูทางเข้า ฉันไม่ลืมที่จะสังเกตุดูว่า ‘โคะไมนุ’ ตัวไหนอ้าปากและตัวไหนหุบปาก ตามตำนานในศาสนาพุทธมหายานกล่าวไว้ว่า ตัวที่อ้าปากออกเสียงเอ ส่วนตัวที่หุบปากออกเสียงอุม รวมทั้งสองคำเข้าด้วยกันจะกลายเป็นคำที่เป็นสัญลักษณ์ของการเกิดและการตายของทุกๆ สรรพสิ่ง

สิ่งแรกที่สดุดตาฉันเมื่อเดินผ่านประตูเข้าไปด้านในคือ ว่าวปลาคาร์ฟ ‘โคะอิโนะโบะริ’ (Koinobori) ที่แขวนอยู่เหนือลานของศาลเจ้า ในช่วงเวลาที่ฉันแวะไปนั้นตรงกับวันหยุดยาวสัปดาห์ทอง (golden week) หนึ่งในสามวันหยุดที่สำคัญที่สุดของปี วันหยุดยาวสัปดาห์ทองนี้มีวันหยุดที่สำคัญอยู่รวมกันถึงสี่วัน หนึ่งในนั้นคือวันเด็กหรือวันเยาวชน ซึ่งในอดีตคือวันเด็กผู้ชาย ชาวญี่ปุ่นถือว่าปลาคาร์ฟเป็นสัญลักษณ์ของเด็กผู้ชาย เพราะเป็นปลาที่แข็งแรงและมีพลังมาก สามารถว่ายทวนกระแสน้ำ ในวันเด็กนี้มีการตกแต่งบ้านเรือนและสถานที่ต่างๆ ด้วยว่าวปลาคาร์ฟ ‘โคะอิโนะโบะริ’ กัน ว่าวปลาคาร์ฟที่ศาลเจ้าฮิมุเระ ฮะชิมันกุ แขวนเป็นราวมีกันอยู่หลายตัว แต่ละตัวมีสีสันสดใสสวยงาม ยามลมพัดมาปลาคาร์ฟแกว่งไกว ส่ายหาง โยกย้ายไปตามลม เป็นภาพที่น่าดูมาก

ในบริเวณศาลเจ้ามีอาคารเก่าแก่และงดงามอยู่หลายอาคาร เช่นอาคาร ‘คะกุระเด็น’ (kagura-den) อาคารสำหรับพิธีฟ้อนรำหรือเล่นดนตรีของลัทธิชินโต เดินขึ้นบันไดหินไปด้านหลังก็จะมาถึงอาคารฮอนเด็น หรืออาคารหลัก อาคารหลักของศาลเจ้าฮิมุเระ ฮะชิมันกุ นี้เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าแห่งสงคราม หน้าอาคารฮอนเด็นจะมีกระดิ่งอันใหญ่แขวนอยู่หลายอัน มีเชือกสานต่อลงมาด้านล่าง มีไว้ให้คนมาเยือนสั่นกระดิ่ง

วิธีทำความเคารพต่อเทพเจ้าของคนญี่ปุ่นมีดังนี้ ก้มหัวลงคำนับ แล้วจึงสั่นกระดิ่งเป็นการบอกกล่าวต่อเทพเจ้าว่า คุณได้มาถึงแล้ว ต่อจากนั้นให้ก้มหัวลงคำนับอีกครั้ง ตบมือสองครั้งแล้วอธิษฐานขอพร ก้มหัวลงคำนับอีกครั้งเป็นอันสิ้นสุดพิธี

นอกจากนั้นแล้วภายในบริเวณศาลเจ้ายังร่มรื่นเต็มไปด้วยด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีโคมไฟหินหลายแบบตั้งเรียงรายอยู่ทั่วบริเวณ อีกทั้งยังมีโคมไฟแขวนและรูปปั้นรูปแกะสลักให้เดินชม ฉันสดุดตากับรูปปั้นนกพิราบคู่หนึ่ง ทาสีทองสุกใส นกพิราบถือว่าเป็นผู้ส่งสารของเทพเจ้าแห่งสงคราม

หลังจากที่ชมเมืองเก่าของโอะมิฮะชิมานและชมวิวทะเลสาบบิวะแล้ว ศาลเจ้าฮิมุเระ ฮะชิมันกุ เป็นอีกแห่งหนึ่งที่ควรค่าแก่การแวะชม และหากคุณมาเยือนศาลเจ้าฮิมุเระ ฮะชิมันกุ ในช่วงกลางเดือนมีนาคม คุณก็จะได้ชมงานเทศกาลสะกิโชะ (Sagicho) หรืองานเทศกาลไฟ ซึ่งเป็นงานเทศกาลที่สำคัญที่สุดของเมืองโอะมิฮะชิมาน

Suwannee Payne

Suwannee Payne @suwannee.payne

I am a Thai woman who has spent half of her life in beautiful Ottawa, capital city of Canada. I enjoy crafting, gardening, photography, bicycle touring and my new found love blogging. You can visit my blog (In Thai) at here It is a beautiful site. The name Ban Suanporpeang means 'Humble little...